ชื่อ: สมบัติ ทองย้อย (58 ปี)
อาชีพ: นักกิจกรรมทางการเมือง, ช่างติดตั้งเครื่องกรองน้ำ
คดี : หมิ่นประมาทกษัตริย์ (ม.112) จากการโพสต์เฟซบุ๊ก
วันที่ถูกจำคุก : 13 ก.ย. 2566
สถานที่คุมขัง : เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

“หนุ่ม” สมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง วัย 53 ปี มีอาชีพรับจ้างติดตั้งเครื่องกรองน้ำ และรับซ่อมดูแลสิ่งของเสียหายต่างๆ เขาเริ่มสนใจปัญหาทางการเมือง พร้อมกับการเกิดขึ้นของวิกฤติทางการเมือง เมื่อช่วงปี 2548 สมบัติเคยสวมใส่สีเสื้อทางความคิดมาแล้วทั้งเหลืองและแดง เขาเป็นหนึ่งในประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมและลงถนนกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประธิปไตย (พธม.) และต่อเนื่องมาจนถึงการรัฐประหารของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร  ก่อนจะตั้งหมุดหมายได้อย่างแน่วแน่กับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในช่วงปี 2550

สมบัติถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 2566 เนื่องจากศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 2 กระทง รวมจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากกรณีโพสต์ข้อความ “#กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ” ประกอบกับแปะภาพบันทึกหน้าจอจากข่าวมติชนเกี่ยวกับบัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่เข้ารับปริญญาทั้งคณะ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2563 ในคอมเมนต์ข้อความดังกล่าว พร้อมกับอีก 2 ข้อความ กล่าวถึงการทำตัวใกล้ชิดประชาชนและการแจกลายเซ็น ซึ่งโพสต์เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563 

สมบัติเคยถูกจำคุกมาแล้วในคดีข้างต้น 288 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 2565 – 9 ก.พ. 2566 หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ  มาตรา 14 (3) โดยภายหลังได้รับการประกันตัวก่อนจะต้องเข้าเรือนจำอีกครั้งหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา 

นอกจากนี้ในวันที่ 31 ม.ค. 2566 เขายังถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีหมิ่นประมาทนายกรัฐมนตรี (ประยุทธ์ จันทรโอชา) ในขณะนั้น จากการโพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กมีเนื้อหาดูหมิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะเจ้าพนักงาน จำนวน 2 โพสต์ (ในช่วงเดือน มิ.ย. 2562 และ ส.ค. 2563)  โดยศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 1 ปี 1 เดือน แต่เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ จึงได้รับการลดโทษให้ 1 ใน 3 กรรมที่ 1 จึงเหลือจำคุก 8 เดือน จาก 1 ปี กรรมที่ 2 เหลือจำคุก 20 วัน จาก 1 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้น 8 เดือน 20 วัน 

สมบัติตัดสินใจที่จะปล่อยให้คดีสิ้นสุดโดยไม่ฎีกาต่อ เนื่องจากต้องการวางหมุดหมายที่ชัดเจนว่าเขาต้องอยู่ในเรือนจำนานเท่าใด โดยไม่ต้องการเข้าๆออกๆ เรือนจำอีกครั้ง หรือต้องรอลุ้นกับผลการตัดสินในชั้นฎีกา โดยสมบัติบอกว่าการต้องยื่นประกันตัวซ้ำ ๆ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว  ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเขาและครอบครัวอย่างมาก