ชื่อ: อานนท์ นำภา (39 ปี)
อาชีพ: ทนายความ
คดี : หมิ่นประมาทกษัตริย์ (ม.112) จากการปราศรัย
วันที่ถูกจำคุก : 26 ก.ย. 2566 / 26 Sep. 2023
สถานที่คุมขัง : เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
อานนท์ นำภา จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงและเนติบัณฑิตไทย สมัย 62 ขณะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 3 เกิดการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 อานนท์ได้เข้าร่วม “เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร” เพื่อทำกิจกรรมต่อต้านการรัฐประหาร ซึ่งทางกลุ่มมีการตั้งเวทีปราศรัยเล็กๆและเขาทำหน้าที่เขียนและอ่านบทกวีบทเวที หลังได้รับใบอนุญาตว่าความในปี 2551 อานนท์ได้ว่าความครั้งแรกเป็นทนายครั้งแรกในศาลทหารขณะยังเป็นทหารเกณฑ์ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารเกณฑ์ของเขาที่ทำผิดในระหว่างรับราชการทหาร
และในฐานะทนายความ ก่อนจะเป็นที่รู้จักในฐานะทนายความที่ว่าความในคดีการเมือง อานนท์เป็นทนายในคดีสิ่งแวดล้อมหลายคดีขณะฝึกงานทนายความอยู่ที่สำนักทนายความ “มีสิทธิ์” เช่น คดีช่วยเหลือชาวบ้านที่มีข้อพิพาทกับรัฐ เช่น คดีท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย นอกจากนี้ยังมี คดีชาวบ้านกับเอกชน ที่ จ.ประจวบฯ ซึ่งค้านโรงถลุงเหล็ก ชาวบ้านที่สระบุรี ที่ต้านโรงไฟฟ้า หรือ คดีสหภาพแรงงานไทรอั้มพ์ ซึ่งมีจิตรา คชเดช เป็นประธานสหภาพในขณะนั้น ซึ่งชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและถูกสลายการชุมนุมโดยเครื่องแอลแลต
ต่อมาในปี 2552 อานนท์ได้เริ่มเป็นทนายในคดี ม.112 โดยคดีแรกที่เขารับผิดชอบเป็นหลัก คือคดีของ สุวิชา ท่าค้อ ซึ่งขณะนั้นเป็นวิศวกรที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการหมิ่นกษัตริย์โดยการตัดต่อและโพสต์ภาพ โดยศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 20 ปี ทำให้อานนท์ได้เริ่มทำคดีการเมืองและคดีม.112 หลังจากนั้นเป็นต้นมา
เมื่อเกิดเหตุการณ์ชุมนุมคนเสื้อแดงและมีการสลายการชุมนุมในปี 2553 อานนท์ได้ก่อตั้ง “สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์” เพื่อช่วยเหลือว่าความและให้คำปรึกษาชาวบ้านที่ไม่มีเงินจ้างทนายความในคดีการเมือง เขาว่าความในทางการเมืองหลายคดี ทั้งคดีชุมนุม คดีที่ชาวบ้านถูกกล่าวหาว่าก่อการร้าย และคดีม.112 โดยในช่วงเวลานั้น อานนท์เป็นหนึ่งในทนายที่ว่าความในคดี “อากง” อำพล ตั้งนพกุล ชายชราซึ่งถูกกล่าวหาว่าส่ง SMS ที่มีข้อความหมิ่นกษัตริย์และถูกพิพากษา จำคุก 20 ปี โดยไม่ได้รับการประกันตัวก่อนจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในเรือนจำ
อานนท์ทำงานเป็นทนายว่าความมาโดยตลอดจนกระทั่งปี 2557 ซึ่งเกิดการรัฐประหารขึ้นอีกครั้งในวันที่ 22 พ.ค. 2557 อานนท์เป็นอีกหนึ่งคนที่เข้าร่วมการต่อต้านรัฐประหารและร่วมก่อตั้ง “ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน” ซึ่งรวบรวมทนายความอาสาเข้ามาทำงานว่าความให้ประชาชนที่ถูกจับกุมและถูกแจ้งความจากการออกมาต่อต้านรัฐประหารและต้องขึ้นศาลทหาร
อานนท์และเพื่อน ๆนักกิจกรรม ยังได้ร่วมกันก่อตั้งกลุ่ม “พลเมืองโต้กลับ” เพื่อทำกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร โดยมักทำกิจกรรมที่เน้นการใช้อารมณ์ขันเป็นหลัก ก่อนอานนท์จะตกเป็นจำเลยเสียเองในคดีทางการเมืองคดีแรกของเขาจากการชุมนุมวันที่ 14 ก.พ. 2558 “เลือกตั้งที่(ลัก)” ตลอดช่วงเวลาภายใต้การรัฐประหาร อานนท์เคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งมาโดยตลอด โดยในปี 2561 เขาได้ตั้งกลุ่ม “คนอยากเลือกตั้ง” จัดเวทีปราศรัยในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทหารจัดการเลือกตั้ง นำมาซึ่งการถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมจำนวน 12 คดีในช่วงเวลานั้น
กระทั่งปี 2563 ภายหลังรัฐบาลจัดให้มีการเลือกตั้งแล้วและมีการผ่านกฎหมายเกี่ยวกับหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันกษัตริย์และพ.ร.บ.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงมีกระแสของประชาชนตั้งคำถามกับเรื่องดังกล่าวและเริ่มมีการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการปฎิรูปรูปสถาบันกษัตริย์ โดยอานนท์เป็นอีกคนหนึ่งที่ปราศรัยในเรื่องดังกล่าวในการชุมนุมเสกคาถาปกป้องประชาธิปไตย หรือที่เรียกกันว่า “ม็อบแฮรี่พอตเตอร์” เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563 เนื่องจากมีการแต่งตัวปราศรัยในธีมแฮรี่พอตเตอร์และมีการเปรียบเปรยถึงคนที่พูดถึงไม่ได้แต่ทุกคนทราบว่าเป็นใครกับลอร์ดโวลเดอมอร์ พ่อมดตัวร้ายในเรื่องแฮรี่พอตเตอร์ โดยการปราศรัยดังกล่าวทำให้เขาถูกแจ้งความดำเนินคดีม.112 เป็นคดีแรกในชีวิต
ตลอดช่วงปี 2563-2565 มีการชุมนุมของนักศึกษาและประชาชนจำนวนหลายร้อยครั้งทั่วประเทศ และยังมีการรวมตัวกันของภาคประชาสังคมในนามกลุ่ม “คณะราษฎร 2563” โดยมีอานนท์เป็นหนึ่งในผู้ปราศรัยหลัก ในเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกร้องการปฎิรูปสถาบันกษัตริย์ อานนท์ถูกดำเนินคดีกว่า 26 คดี โดยเป็นคดีม.112 จากการขึ้นปราศรัยบนเวทีและการโพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์กว่า 14 คดี
ปัจจุบันอานนท์ถูกศาลพิพากษาจำคุกแล้ว 4 คดี รวม 14 ปี 1 เดือน 20 วัน จากการปราศรัยในการชุมนุม 14 ต.ค. 2563, การเข้าร่วมชุมนุมวันที่ 18 พ.ย. 2563, การโพสต์เฟซบุ๊กจำนวน 3 ข้อความ ในปี 2564, การปราศรัยวันที่ 3 ส.ค. 2564 หรืองานครบรอบ 1 ปี ม็อบแฮรี่พอตเตอร์ (แฮรี่พอตเตอร์2) และ การโพสต์เฟซบุ๊กจำนวน 2 ข้อความ ในปี 2564