ชื่อ: เชน ชีวบัญชา (ขุนแผนแสนสะท้าน) (57ปี)
อาชีพ: สื่ออิสระชื่อเพจเฟซบุ๊ก ‘ขุนแผน แสนสะท้าน’
คดี : หมิ่นกษัตริย์ (มาตรา 112) และ ดูหมิ่นศาล
วันที่ถูกจำคุก : 18 ก.ค. 2567
สถานที่คุมขัง : เรือนพิเศษกรุงเทพฯ

“เชน” หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ “ขุนแผน” เกิดและเติบโตที่จังหวัดนครปฐม โดยเรียนจบอนุปริญญาสาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ก่อนออกมาทำงานบริษัทอยู่ราว 3 ปี กระทั่งช่วงอายุ 20 กลาง ๆ เกิดวิกฤตเศรฐกิจปี 2540 จึงตัดสินใจออกมาทำสวนทำไร่ที่บ้านนครปฐม

จากการผจญชีวิตที่บ้านเกิด กระทั่งต้นปี 2561 ขุนแผนย้ายมาอยู่ที่ จ.นนทบุรี เพื่อรักษาโรคนิ่ว ซึ่งต้องผ่าตัด ระหว่างเวลาว่าง ก็เริ่มใช้โซเชียลมีเดีย จึงพบเห็นกิจกรรม We Walk เดินมิตรภาพ ของกลุ่ม People Go ที่เดินเท้าจากกรุงเทพฯ ไปขอนแก่น เพื่อเรียกร้องสิทธิพลเมืองในหลากประเด็น ซึ่งเป็นกิจกรรมในช่วงยุคที่ คสช. ยึดอำนาจ และปิดกั้นกิจกรรมสาธารณะต่าง ๆ

หลังจากนั้นก็เกิดความสนใจ ติดตามข่าวสารกิจกรรมทางการเมืองมาตลอด จนกระทั่งเริ่มไปม็อบชาวบ้านและม็อบการเมือง ทั้งการชุมนุมของชาวบ้านจะนะ หรือม็อบคนอยากเลือกตั้ง ระหว่างทำกิจกรรมก็ทำให้รู้จักเพื่อนมากขึ้น จนในปี 2563 ซึ่งเกิดการชุมนุมใหญ่ของนักเรียน นักศึกษา ประชาชน เขาก็เข้าร่วมติดตาม และเวลามีใครถูกจับ ก็จะไปร่วมทำกิจกรรม #ปล่อยเพื่อนเรา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมือง

สำหรับคดีที่ทำให้เชน ถูกจำคุกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2565 เวลาประมาณ 17.00-18.20 น. ซึ่งมีการจัดกิจกรรม “ยืนบอกเจ้าว่าเราโดนรังแก” บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยมีการปราศรัยโดยใช้เครื่องขยายเสียง ชูป้ายและติดป้ายข้อความเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของศาลหรือผู้พิพากษา ในการพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย ได้แก่ “ใบปอ” และ “บุ้ง” ในขณะนั้น

คดีนี้สืบพยานเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2567 อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มการสืบพยาน เชนได้แถลงขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การปฏิเสธและให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้อง โดยมีความหวังว่าเมื่อศาลมีคำพิพากษา ตนจะได้รับโอกาสให้รอการลงโทษไว้ ศาลจึงให้งดการสืบพยาน และมีคำสั่งให้สืบเสาะและพินิจพฤติการณ์เพิ่มเติม ก่อนนัดคำพิพากษาในวันที่ 18 ก.ค. 2567

ในวันดังกล่าว ศาลพิพากษาจำคุกเชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำนวน 3 ปี และความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาคดี จำนวน 2 ปี, ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จำคุก 2 ปี และฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับคนละ 200 บาท รวมโทษจำคุกคนละ 7 ปี ปรับคนละ 200 บาท เนื่องจากเชนให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 3 ปี 6 เดือน ปรับ 100 บาท โดยไม่รอลงอาญา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า