ชื่อ: สุดใจ (สงวนนามสกุล) (53 ปี)
อาชีพ: รับจ้าง
คดี : มีวัตถุระเบิดในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาออกนอกเคหสถานในเวลาเคอร์ฟิว จากกรณีเข้าร่วมชุมนุมบริเวณดินแดง
วันที่ถูกจำคุก : 12 ต.ค. 2566
สถานที่คุมขัง : เรือนจำพิเศษมีนบุรี
สุดใจต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ภายหลังเดินทางไปรายงานตัวต่อศาล เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2566 หลังได้รับหมายแจ้งคำสั่งว่าไม่มีผู้พิพากษาอนุญาตให้ฎีกาในคดีของเขา ทำให้คดีสิ้นสุดลงทันทีและต้องรับโทษตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ที่กำหนดโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน
ช่วงเวลาที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา สุดใจยังได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยศาลกำหนดเงื่อนไขให้ใส่กำไล EM และห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 15.00-05.00 น. ของวันใหม่ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาเขาต้องติดกำไลดังกล่าวเรื่อยมา แต่ศาลอนุญาตให้เปลี่ยนเวลาออกนอกเคหสถาน เป็นระหว่าง 18.00-05.00 น. ในเวลาต่อมา จากนั้น วันที่ 25 พ.ค. 2566 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยพิจารณาในลักษณะคล้ายกับศาลชั้นต้น และสุดใจยังได้รับการประกันตัวระหว่างฎีกา อย่างไรก็ตามในวันที่ 12 ต.ค. 2566 สุดใจได้รับแจ้งว่าศาลไม่อนุญาตให้คดีของเขาได้ฎีกา จึงทำให้สุดใจต้องเข้าเรือนจำ
การเข้าเรือนจำครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก สุดใจเล่าให้ทนายฟังขณะทนายเข้าเยี่ยมที่เรือนจำว่า ในปี 2553 เขาเคยเป็นจำเลยในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ จากการออกมาชุมนุมในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ และต้องติดคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ประมาณ 1เดือน โดยเขาเข้าใจว่าเป็นการติดคุกแทนการเสียค่าปรับและต้องถูกคุมประพฤติอยู่อีก 3 ปี ต้องไปรายงานตัวทุก 3 เดือน
สุดใจได้รับการปล่อยตัวจากการอภัยโทษในวันที่ 15 ต.ค. 2567 ภายหลังถูกคุมขังมาแล้ว 370 วัน
