ชื่อ: วุฒิ (นามสมมติ) (50 ปี)
อาชีพ: พนักงานรักษาความปลอดภัย
คดี : หมิ่นกษัตริย์ (มาตรา 112) และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากการโพสต์เฟซบุ๊ก 12 ข้อความในช่วงปี 2564
วันที่ถูกจำคุก : 27 มี.ค. 2566
สถานที่คุมขัง : เรือนจำกลางคลองเปรม

‘วุฒิ’ อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัย วัย 48 ปี และผู้ต้องขังในคดี ม.112 ผู้ที่สาธารณชนไม่เคยเห็นใบหน้าจริงของเขามาก่อน จากประชาชนคนธรรมดา ทำงานหาเช้ากินค่ำ ใช้ชีวิตคู่กับคนรัก คอยช่วยเหลือดูแลกันและกัน ชีวิตเรียบง่ายอย่างปุถุชนทั่วไป เขามีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ จบการสูงสุดระดับชั้น ปวช. สาขาช่างไฟฟ้า ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก หลังเรียนจบได้ทำงานแรกเกี่ยวกับด้านไฟฟ้าอยู่ที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งได้ประมาณ 1 ปี จากนั้นได้เปลี่ยนไปทำงานเกี่ยวกับการประกอบเครื่องจักรสีข้าวเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งงานที่ 2 นี้เขาได้ทำอยู่นานกว่า 10 ปีได้

เขาเริ่มสนใจประเด็นทางการเมืองเมื่ออายุประมาณ 20 ปีได้ เขาติดตามข่าวการเมืองโดยตลอด และเมื่อมีเวลาว่างจากการทำงานงานก็จะหาเวลาไปเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมประท้วงการรัฐประหารในปี 2549 และการชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 จนถึงการประท้วงระลอกปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นการเรียกร้องให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ, เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่, ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และอื่น ๆ

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2566 พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีของวุฒิต่อศาลอาญามีนบุรี จากการถูกกล่าวหาว่าโพสต์เฟซบุ๊ก 12 ข้อความ ในวันเดียวกันนั้นศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัววุฒิ แม้ว่าเขาจะลางานเพื่อเดินทางไปตามนัดหมายคดีความทุกนัด โดยศาลอ้างว่าการกระทำที่ถูกฟ้องนั้นเป็นการกระทำหลายครั้งต่อเนื่องกัน โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย คดีมีอัตราโทษสูง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเกรงว่า ‘จำเลยจะหลบหนี’ ทำให้วุฒิต้องถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีมาตั้งแต่วันนั้น

ระหว่างนั้นทนายความยื่นประกันตัวและอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัววุฒิไปหลายครั้ง ทว่าศาลยังคงยืนไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว แม้ว่าในช่วง 10 เดือนแรกนั้น ศาลจะยังไม่มีคำพิพากษาว่าวุฒิมีความผิดจริงตามที่ถูกฟ้อง

คดีนี้มีนัดสืบพยานในวันที่ 22 – 24 พ.ย. 2566 ในวันแรกของการสืบพยานศาลแจ้งให้วุฒิทราบอีกครั้งว่า หากให้การรับสารภาพ ศาลจะสามารถใช้ดุลยพินิจในการลงโทษสถานเบาได้ ภายหลังการปรึกษาหารือกับทนายความ วุฒิจึงตัดสินใจถอนคำให้การเดิม และให้การใหม่เป็นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และศาลมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติทำการสืบเสาะและพินิจก่อนนัดพิพากษาในวันที่ 21 ธ.ค. 2566

ต่อมาในวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดี ก่อนแจ้งกับทนายความและวุฒิว่า หลังจากได้ไปปรึกษาแล้วเห็นว่า คดีนี้ไม่สามารถลงโทษสถานเบาได้ เนื่องจากข้อความเกี่ยวข้องกับระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หลังจากที่ทนายความและวุฒิปรึกษาหารือกัน วุฒิตัดสินใจแถลงต่อศาลขอถอนคำให้การในวันที่ 22 พ.ย. 2566 ที่ให้การรับสารภาพ และให้การใหม่เป็นปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความตามฟ้องโจทก์

อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาเห็นว่า วุฒิขอถอนคำให้การเป็นรับสารภาพแล้ว จึงไม่มีเหตุให้ถอนคำให้การรับสารภาพเป็นปฏิเสธ และไม่อนุญาตให้ถอนคำให้การในวันที่ 22 พ.ย. 2566 และให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 ก.พ. 2567 ในวันดังกล่าว ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกวุฒิ ทั้ง 12 ข้อความ ข้อความละ 3 ปี รวมจำคุก 36 ปี โดยวุฒิให้การรับสารภาพ จึงมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 12 ปี 72 เดือน (หรือประมาณ 18 ปี)

ในช่วงแรกวุฒิเป็นผู้ต้องขังคดีการเมืองเพียง ‘คนเดียว’ ที่ถูกขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี นั่นเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาถูกกลั่นแกล้งและคุกคามจากผู้ต้องขังร่วมเรือนจำ วุฒิถูกทำร้ายร่างกาย ถูกเรียกค่าคุ้มครองความปลอดภัยในรูปแบบของอาหารสำเร็จรูปและของใช้

หลังถูกขังมานานเกือบปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ศาลมีคำพิพากษาแล้ว โดยพิพากษาจำคุกรวม 36 ปี แต่ลดเหลือ 18 ปี เพราะให้การรับสารภาพ จากนั้นวุฒิถูกย้ายไปอยู่เรือนจำกลางคลองเปรม สถานที่คุมขังซึ่งมีไว้สำหรับผู้ต้องโทษจำคุกมากกว่า 15 ปีขึ้นไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า