ชื่อ: ชัชวาล (55 ปี)
อาชีพ: ไม่ทราบข้อมูล
คดี : ข้อหาหลัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ครอบครองอาวุธ
วันที่ถูกจำคุก : 4 ก.ย. 2558
สถานที่คุมขัง : เรือนจำบางขวาง
ย้อนกลับไปช่วงปลายปี 2556 ถึงต้นปี 2557 ระหว่างที่ยังมีการชุมนุมเรียกร้อง “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” และขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในขณะนั้น โดยกลุ่ม กปปส. ในกรุงเทพฯ และตามจังหวัดต่าง ๆ
วันที่ 23 ก.พ. 2557 ราว 5โมงเย็น ได้เกิดเหตุระเบิดที่หน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของ กปปส. โดยกระสุนระเบิดขนาด 40 มม. หรือที่ถูกเรียกแทนด้วยชื่อ M79 ซึ่งเป็นเพียงชื่อของเครื่องยิงกระสุนระเบิดรุ่นหนึ่ง จากแรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นเด็ก 2 ราย และผู้ใหญ่ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 21 ราย
หลังรัฐประหารเดือนเศษ ในช่วงวันที่ 6-8 ก.ค. 2557 ประชาชน 4 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารเข้าจับกุมตัว ได้แก่ ชัชวาล, สุนทร , สมศรี และทวีชัย โดยอ้างอำนาจควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกและนำตัวไปสอบสวนในค่ายทหาร เป็นเวลา 8-9 วัน ทั้งไม่ให้ทั้งสี่ได้ติดต่อญาติหรือทนายความ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอยู่ในการควบคุมตัวของทหารเกินระยะเวลาที่กฎอัยการศึกได้อนุญาตไว้ ก่อนถูกส่งตัวเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาโดยตำรวจ สน.ลุมพินี ต่อ และทั้ง 4 คน ไม่มีทนายความอยู่ด้วย ทั้งตอนที่อยู่ในการควบคุมของทหารและการสอบสวนของตำรวจ
ทั้งสี่ถูกส่งตัวให้ตำรวจ สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ก่อนพบว่าตำรวจได้ขอออกหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 13 ก.ค. 2557 เป็นการขอออกหมายจับ แม้ผู้ต้องหาจะถูกจับกุมตัวแล้ว จากนั้นพวกเขาถูกตำรวจพาไปแถลงข่าวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ก่อนถูกนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันที่ 16 ก.ค. และทำให้พวกเขาถูกคุมขังเรื่อยมา
ต่อมาญาติของผู้ต้องหาทั้งสี่ ได้พยายามร้องเรียนว่า ทั้ง 4 คน ถูกทำร้ายร่างกายและข่มขู่ให้รับสารภาพระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าข่ายการซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
ต่อมา ทั้งสี่ถูกสั่งฟ้องในหลายข้อหาประกอบด้วย ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าโดยไต่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, มีและใช้วัตถุระเบิด อาวุธปืน กระสุนปืน ยุทธภัณฑ์ ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครอง, พาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดติดตัวไปในที่สาธารณะ, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง และฝ่าฝืนประกาศที่ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดออกนอกเคหสถานเข้าไปในเขตพื้นที่ที่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในชั้นศาลพวกเขาทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุพวกเขาไม่ได้ไปในที่เกิดเหตุ และการรับสารภาพในขณะถูกควบคุมตัวในค่ายทหารและในชั้นสอบสวนเป็นเพราะพวกเขาถูกซ้อมทรมาน
คดีดังกล่าวมีการต่อสู้ถึงชั้นฎีกา โดยศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาประหารชีวิตทั้ง 4 คน เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2558 แต่เนื่องจากให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต
หลังจากนั้นได้มีการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ และฎีกา ก่อนที่ศาลฎีกาจะพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ในวันที่ 22 ส.ค. 2560 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 4 แต่เนื่องจากรับสารภาพในชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต ทั้ง 4 คน ไม่เคยได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวมาตั้งแต่ชั้นฝากขัง จนถึงปัจจุบันทั้งสี่ถูกคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวางมาเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว
นอกจากนี้ยังพบว่าชัชวาลถูกอัยการสั่งฟ้องคดีเกี่ยวกับอาวุธอีก 7 คดี และศาลยกฟ้องไปแล้ว 5 คดี โดยมีคดีที่ถูกลงโทษจำคุกอีก 8 ปี ในข้อหาครอบครองอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ ซึ่งพบในพงหญ้าในหมู่บ้านแถบจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2557 ซึ่งเป็นคดีต่อเนื่องจากคดีการยิง M79 หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีราชดำริข้างต้น
4 ต.ค. 2567 ทั้งสี่ถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำบางขวาง เนื่องจากเข้าเกณฑ์ได้รับการอภัยโทษ
