ชื่อ: มาร์ค (สงวนนามสกุล) (27 ปี)
อาชีพ: เกษตรกรและค้าขายผลผลิตผัก
คดี : ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง (ระเบิดปิงปอง) จากกรณีเข้าร่วมชุมนุมบริเวณดินแดง
วันที่ถูกจำคุก : 15 มี.ค. 2566
สถานที่คุมขัง : เรือนพิเศษกรุงเทพฯ
“มาร์ค” ชายหนุ่มวัยอายุ 25 ปี ทำอาชีพด้านการเกษตรและค้าขายผลผลิตผัก โดยเขาอาศัยอยู่ที่บ้านย่านนนทบุรีกับน้าและยาย
มาร์คเข้าร่วมการชุมนุมบริเวณดินแดง เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2564 เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยร่วมชุมนุมเลย แต่วันแรกที่เขาออกมาชุมนุม เขาถูกแก๊ซน้ำตาจากฝั่งเจ้าหน้าที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและสามเหลี่ยมดินแดง เขาจึงออกมาชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เพราะเจ็บแค้นที่ถูกกระทำและโดนแก็ซน้ำตา
ภายหลังมาร์คถูกจับในที่ชุมนุมจากกรณีเข้าร่วมชุมนุมบริเวณดินแดง เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2564 และตำรวจตรวจพบระเบิดปิงปองไว้ในครอบครองจำนวน 29 ลูก และระเบิดแรงดันต่ำอีก 1 ลูก มาร์คถูกแจ้งข้อหาชุมนุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง
หลังอัยการมีคำสั่งฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2566 ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวมาร์คระหว่างพิจารณา โดยเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะหลบหนี มาร์คถูกคุมขังมาโดยตลอดตั้งแต่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง มาร์คถูกขังอยู่จนกระทั่ง 7 ธ.ค. 2566 ศาลอาญามีคำพิพากษา ลงโทษจำคุก 4 ปี ฐานมีวัตถุครอบครองวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนในความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงโทษจำคุก 2 เดือน การไม่ได้รับการประกันตัวเป็นเวลานาน เป็นปัจจัยสำคัญให้มาร์คตัดสินใจรับสารภาพเพื่อให้คดีสิ้นสุด
ศาลเห็นว่าการรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวม 2 ปี 1 เดือน เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีเป็นพฤติการณ์ที่ร้ายแรง จึงไม่รอลงอาญา
มาร์คได้รับการปล่อยตัวจากการอภัยโทษเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2567 ภายหลังถูกคุมขังมาแล้ว 581 วัน