ชื่อ: สุขสันต์ (สงวนนามสกุล) (22 ปี) / Suksan
อาชีพ: รับจ้างทั่วไป
คดี : ข้อหาหลักพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
วันที่ถูกจำคุก : 14 ก.ย. 2566
Location of Imprisonment: Klong Prem Prison

สุขสันต์ (สงวนนามสกุล) ถูกตำรวจจับกุมตามหมายจับตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่วันที่ 1 ต.ค. 2564 จากการเข้าร่วมชุมนุม #ม็อบทะลุแก๊ส ที่หน้าบริเวณดุริยางค์ทหารบก เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564 ก่อนถูกนำตัวไปที่สอบสวนที่ สน.ห้วยขวาง โดยไม่มีทนายความ

เขาและไพฑูรย์ คู่คดีของเขา ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยใช้กำลังหรือมีอาวุธ โดยพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาคือ ได้ใช้ความรุนแรง และต่อสู้ขัดขวางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้ใช้ระเบิดปาใส่ตำรวจควบคุมฝูงชยจนเป็นเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสมีแผลฉีกขาดบริเวณหน้าและบริเวณตาขวา มีเลือดออกในสมอง และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

ทั้งนี้ในชั้นจับกุม ไพฑูรย์ได้ให้การรับสารภาพ แต่ปฎิเสธในชั้นสอบสวน ขณะที่สุขสันต์ปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งคู่ถูกตำรวจนำตัวไปฝากขังเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2564 โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน พวกเขายังถูกสั่งฟ้องขณะถูกคุมขังในเรือนจำเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2564 และไม่ได้ประกันตัวในระหว่างการพิจารณาคดี โดยภายหลังถูกสั่งฟ้อง ไพฑูรย์และสุขสันต์ยังคงปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา รวมพวกเขาถูกขังระหว่างวันที่ 2 ต.ค. 2564 – 1 มี.ค. 2565 จำนวน 151 วัน ก่อนจะได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวโดยให้ติดกำไล EM ที่ข้อเท้า

14 ก.ย. 2566 ศาลพิพากษาว่าไพฑูรย์มีความผิดตามฟ้อง เป็นความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท กรณีการร่วมชุมนุมมั่วสุมลงโทษในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 216 จำคุก 1 ปี กรณีพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (2) ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต

ส่วนสุขสันต์มีความผิดฐานสนับสนุนการฆ่าเจ้าพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา 289 (2) ซึ่งขณะเกิดเหตุอายุ 19 ปี จึงลดโทษ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 33 ปี 4 เดือน ทั้งสองให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษกระทงละ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก ไพฑูรย์ทั้งสิ้น 33 ปี 12 เดือน และสุขสันต์ เหลือโทษจำคุกทั้งสิ้น 22 ปี 2 เดือน 20 วัน

วันที่ 30 พ.ย. 2566 ไพฑูรย์และสุขสันต์ ยังถูกศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษาอีก 1 คดี กรณีถูกฟ้องว่าร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง จากการถูกจับกุมและตรวจค้นบ้าน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 คดีนี้มีการสืบพยานในวันที่ 19 ต.ค. 2566 โดยทั้งสองจึงถูกเบิกตัวจากเรือนจำกลางคลองเปรมเพื่อเข้าร่วมการพิจารณาคดี ไพฑูรย์ได้กลับคำให้การเป็น ‘รับสารภาพ’ ทุกข้อกล่าวหา ส่วนสุขสันต์ยืนยันให้การปฏิเสธในชั้นศาล การสืบพยานจึงยังคงต้องดำเนินต่อไป

ศาลพิพากษาให้ไพฑูรย์ซึ่งรับสารภาพมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 6 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เนื่องจากรับสารภาพ คงเหลือจำคุก 3 ปี และให้นับโทษต่อจากคดีของศาลอาญาที่ถูกพิพากษาจำคุก 33 ปี 12 เดือน ส่วนสุขสันต์ ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากไม่มีหลักฐานไพฑูย์เป็นผู้ร่วมกระทำความผิด และพยานโจทก์ที่นำมาเบิกความ ศาลเห็นว่ามีพิรุธอยู่พอสมควร จึงยกประโยชน์ความสงสัยให้กับจำเลย
ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า